ออสเตรเลีย

สัปดาห์ที่แล้วดิฉันลาท่านผู้อ่านเพื่อไปสังเกตการณ์ฤดูร้อนในประเทศที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้ คือประเทศออสเตรเลีย

เวลาไปออสเตรเลีย มักจะได้ยินสถิติต่างๆว่าใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้บ้างล่ะ ทันสมัยที่สุด หรือสูงที่สุดในซีกโลกใต้ แน่นอนค่ะ เพราะเป็นประเทศเดียวที่ครอบครองทวีปออสเตรเลียทั้งทวีป แม้ว่าจะเป็นทวีปที่เล็กที่สุดก็ตาม

ออสเตรเลียมีพื้นที่ 7.74 ล้านตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 15 เท่าของพื้นที่ประเทศไทย นับความใหญ่ของพื้นที่เป็นอันดับ 6 ของโลก มีชายฝั่งยาวถึง 25,760 กิโลเมตร

เนื่องจากเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ ภูมิอากาศจึงแตกต่างกันไป ทางตอนเหนือซึ่งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร จะมีภูมิอากาศแบบเขตร้อน มีพืชพันธุ์ธัญญาหารคล้ายๆกับบ้านเรา ในขณะพื้นที่ทางตอนใต้และตะวันออกของเกาะจะมีภูมิอากาศแบบอบอุ่น

แต่เดิม เมื่อประมาณ 40,000 ปี ก่อนที่ชาวยุโรปจะค้นพบทวีปออสเตรเลีย ผู้อพยพมาตั้งถิ่นฐานในออสเตรเลียกลุ่มแรก มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (หากถอยหลังไปดูการจำลองพื้นที่ของโลกโบราณจะพบว่าทวีปออสเตรเลียเคยเป็นส่วนหนึ่งของทวีปเอเชีย แล้วภายหลังแตกหลุดออกไป)

ทวีปออสเตรเลียในยุคใหม่ ถูกค้นพบโดย กัปตันเจมส์ คุก เมื่อปี 1770 และได้กลายเป็นอาณานิคมของอังกฤษจนกระทั่ง 1 มกราคม 1901 จึงได้รับเอกราช แต่ยังคงเป็นประเทศที่อยู่ในเครือจักรภพอังกฤษ เรียกว่า Commonwealth of Australia

ออสเตรเลียแบ่งเขตการปกครองเป็น 6 รัฐ และ 2 อาณาเขต มีประชากรน้อยกว่าที่ใครๆมักจะคิด เพียง 22.5 ล้านคน ส่วนใหญ่ คือ 89.2% อาศัยอยู่ในเมือง

เมืองหลวงคือ แคนเบอร์รา เมืองใหญ่ที่สุดคือซิดนีย์ ซึ่งเป็นเมืองธุรกิจ มีประชากร 4.5 ล้านคน รองลงมาคือ เมลเบอร์น มีประชากรประมาณ 4 ล้านคน และ บริสเบน มีประชากร 2.04 ล้านคน

ประชากรของออสเตรเลียส่วนใหญ่คือประมาณ 92% เป็นคนผิวขาว ถัดมาเป็นเอเชีย 7% และเชื้อชาติอะบอริจินซึ่งเป็นคนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ก่อนการค้นพบของกัปตันคุก รวมกับเชื้อชาติอื่นๆ ประมาณ 1%

และแน่นอนว่า ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ โดยมีสัดส่วนของโปรแตสแตนท์และคาทอลิกใกล้ๆกันค่ะ รวมกันประมาณ 50% ถัดมาเป็นกลุ่มไม่นับถือศาสนาใด 22%

ออสเตรเลียเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว คาดการณ์ขนาดของเศรษฐกิจวัดโดย GDP ในปี 2014 ประมาณ 1.488 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 48.5 ล้านล้านบาท โดยมีรายได้ประชาชาติเฉลี่ยต่อหัว 43,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.4 ล้านบาทต่อปี

เวลาพูดถึงออสเตรเลีย คนมักจะนึกถึงแร่ธาตุ ทองคำ และน้ำมัน ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ออสเตรเลียมีอยู่มากมาย และหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจพื้นฐานของประเทศ ออสเตรเลียขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ส่งออกทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน และอาหารรายใหญ่ของโลก โดยเป็นผู้ส่งออกถ่านหินถึง 29%ของการส่งออกทั่วโลก

นอกจากถ่านหิน ทองคำ และน้ำมันแล้ว ออสเตรเลียยังมีแร่ธาตุอื่นมากมาย ทั้งบ๊อกไซต์ เหล็ก ทองแดง ดีบุก เงิน ยูเรเนียม นิเกิล ทังสเตน ตะกั่ว สังกะสี เพชร และมีแหล่งก๊าซธรรมชาติ

1421639531

นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังเลื่องชื่อเกี่ยวกับปศุสัตว์ เช่น วัว และแกะ และเป็นประเทศที่มีสัตว์แปลกๆมากมาย เช่น จิงโจ้ วิลโลบี หมีโคอาลา เนื่องจากเป็นทวีปที่แยกออกมาห่างไกลจากทวีปอื่น สัตว์ดึกดำบรรพ์จึงสามารถคงอยู่ได้โดยไม่สูญพันธ์ุ

ทั้งนี้ การนำเข้าพืชพันธุ์ต่างๆเข้มงวดมาก ประเทศเกาะส่วนใหญ่จะเป็นเช่นนี้ เพราะหากไม่เข้มงวด อาจจมีการนำเอาเชื้อโรคใหม่ๆที่เป็นอันตรายต่อพืชพันธุ์และปศุสัตว์มาแพร่กระจายได้ และจะแก้ปัญหายาก ดังนั้นผู้เดินทางเข้าประเทศจะถูกห้ามนำอาหารสด อาหารที่มีส่วนผสมของนม ติดตัวเข้าไปโดยเด็ดขาด

ธงชาติทั่วโลก6

กฎหมายของเขาเข้มงวด และมีการบังคับใช้ได้ดีมาก การฝ่าฝืนจะถูกลงโทษ

วันชาติของออสเตรเลีย ไม่ได้เรียกว่า National Day เหมือนวันชาติของประเทศอื่นๆ แต่เรียกว่า Australia Day คือเป็นวันที่ระลึกถึงผู้อพยพจากอังกฤษมาตั้งถิ่นฐานในทวีปนี้ชุดแรก ซึ่งเดินทางมาถึง เมื่อวันที่ 26 มกราคม 1788

เนื่องจากออสเตรเลียอยู่ในซีกโลกใต้ ฤดูกาลจะสลับกับซีกโลกเหนือที่เราคุ้นเคยกันอยู่ค่ะ

ดิฉันไปเยือนออสเตรเลียในช่วงที่มีการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมแรกของปี คือ ออสเตรเลียนโอเพ่น ซึ่งจัดที่เมืองเมลเบอร์น ในกลางฤดูร้อน คือสัปดาห์ที่สามและสี่ของเดือนมกราคม ซึ่งจะคร่อมช่วงของ Australian Day ทำให้ได้มีโอกาสดูพาเหรด ดูทีวีเห็นกิจกรรมต่างๆ การมอบรางวัล “บุคคลแห่งปี”ให้กับหญิงและชาย ท่านละหนึ่งรางวัล

ในปีนี้ได้ไปดูการจุดพลุฉลอง ที่เขาแจ้งว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมืองเมลเบอร์น เนื่องจากเป็นปีครบรอบ 100 ปีของ ANZAC ทางการได้ทำเหรียญที่ระลึก 100 ปีออกมาจำหน่ายด้วย

ดิฉันสงสัยว่า ANZAC คืออะไร ไปค้นหาจึงพบว่า เป็นการครบรอบ 100 ปีของการที่ทหารของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ยกพลขึ้นบกที่ตุรกี ในคราวที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อปี 1915

ออสเตรเลียยังมีกลิ่นไอของประเทศเกิดใหม่อยู่มาก มีโอกาสในการทำงาน สร้างฐานะ มีการก่อสร้างเกิดขึ้นตลอดเวลา และมีผู้คนอพยพไปอยู่เรื่อยๆ คนขับรถแท้กซี่เล่าว่า เขามาจากอินเดียเมื่ออายุ 17 ปี ตอนนี้อายุ 24 ปี สามารถมีแท้กซี่ให้เช่าและขับเองถึง 3 คัน เขามาเที่ยวเมืองไทยบ่อยๆด้วยค่ะ

ออสเตรเลียใช้จ่ายเงินเพื่อการศึกษา 5.6%ของ GDP (ดิฉันค้นดูแล้วไทยเราใช้ถึง 5.8% ของ GDP ค่ะ แต่อาจจะไม่มีประสิทธิภาพเท่า) และเป็นประเทศที่คนเอเชียอยากไปเรียนต่อ เนื่องจากเป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักที่อยู่ใกล้ทวีปเอเชียที่สุด และมีคนเอเชียโดยเฉพาะชาวจีน อยู่มาก ประมาณว่ามีคนใช้ภาษาจีนกลางเป็นภาษาหลัก 1.2% และใช้จีนกวางตุ้งเป็นภาษาหลัก 1.2%

ร้านอาหารจีนในออสเตรเลียส่วนใหญ่อร่อยค่ะ เพราะมีวัตถุดิบอาหารที่สด ในเมลเบอร์นมีไชน่าทาวน์หรือย่านชุมชนชาวจีนที่ค่อนข้างใหญ่ คือประมาณ 3 ช่วงตึก ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกค่ะ

ค่าเงินออสเตรเลีย ถือเป็นค่าเงินที่ผันผวนมากสกุลหนึ่ง เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศอิงกับโภคภัณฑ์ ในยามที่ราคาโภคภัณฑ์ปรับตัวสูง ค่าเงินก็จะแข็ง เช่นในปี 2008 ก่อนวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ที่ราคาเหล็กและน้ำมัน พุ่งขึ้นไปสูงมาก ในเดือน กรกฎาคม 2008 หนึ่งเหรียญออสเตรเลีย แลกได้ 0.95 เหรียญสหรัฐ หลังเกิดวิกฤติเพียงหนึ่งเดือน คือในเดือนตุลาคม 2008 ค่าเงินอ่อนตัวไปถึง 0.60 เหรียญสหรัฐ และแข็งขึ้นมาสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนกรกฎาคม 2011 ที่ 1.1 เหรียญสหรัฐ แต่ในปัจจุบันเมื่อราคาน้ำมันตกฮวบฮาบ ในวันที่ 30 มกราคม 2015 ล่าสุด 1 เหรียญออสเตรเลีย แลกได้เพียง 0.7754 เหรียญสหรัฐเท่านั้นค่ะ

ได้รู้จักกับออสเตรเลียพอหอมปากหอมคอนะคะ พบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ

StockRadars ปักธง 2 ปี ให้บริการเพิ่มอีก 5 ประเทศ

StockRadars แอปพลิเคชันวิเคราะห์หุ้นจากโครงการ “AIS The StartUp” เตรียมแผนขยายบริการสู่ 5 ประเทศ หลังร่วมทุนต่างประเทศเพิ่มอีก 2 บริษัท จากเงินลงทุนหลักร้อยล้านบาท พร้อมดันผู้ใช้บริการไทยเพิ่มขึ้นแตะ 3 แสนคน หลังเพิ่มระบบวิเคราะห์หุ้นแบบเรียลไทม์
stockradars-setlnw
นายธีระชาติ ก่อตระกูล ผู้ก่อตั้งบริษัท สยามสแควร์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน StockRadars กล่าวว่า บริษัทได้ตกลงร่วมทุนกับนักลงทุนต่างประเทศ 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ไซเบอร์เอเจนท์ เวนเจอร์ส จำกัด (Cyber Agent Ventures) ประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท อีสท์เวนเจอร์ จำกัด (East Ventures) ประเทศสิงค์โปร์-ญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มทุนสำหรับการทำการตลาด StockRadars ให้สามารถขยายตลาดสู่ตลาดโลก รวมทั้งช่วยพัฒนาให้มีฟังก์ชันการใช้งานระบบวิเคราะห์หุ้นแบบเรียลไทม์ ที่จะช่วยให้การลงทุนของนักลงทุนทุกคนง่ายมากยิ่งขึ้น

“ในแง่ของปริมาณเงินลงทุนไม่สามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้ เนื่องจากทางผู้ลงทุนกลัวว่าจะส่งผลให้คู่แข่งทราบการเคลื่อนไหว แต่เบื้องต้นเปิดเผยได้ว่า รับเงินลงทุนจากทั้ง 2 บริษัทอยู่ที่ 8 หลัก รวมกันแล้วอยู่ที่ 9 หลัก”

โดยบริษัทตั้งเป้าหมายจะสามารถพัฒนาฟังก์ชันสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศกว่า 5 ประเทศ 5 ภาษา ภายใน 2 ปี โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของแต่ละประเทศ ได้แก่ สิงคโปร, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, ฮ่องกง และออสเตรเลีย โดยในแต่ละประเทศจะได้รับการสนับสนุนในการขยายตลาดอย่างเต็มที่จากโอเปอเรเตอร์ในเครือสิงค์เทล

นอกจากนั้น AIS เตรียมพร้อมส่ง StockRadars เข้าสู่ Product Innovation Fair ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ เพื่อเจรจาธุรกิจกับกลุ่ม Bridge Alliance Operators ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ StockRadars ได้รับการสนับสนุนจากโอเปอเรเตอร์อื่นๆ ที่นอกเหนือจากกลุ่มสิงค์เทล

“การจับมือของ 3 พันธมิตรในครั้งนี้ ได้แก่ StockRadars, AIS และกลุ่มนักลงทุน จะสร้างความแข็งแกร่งให้ StockRadars อย่างมาก เพราะไม่ใช่แค่เงินทุน แต่ยังมีการแลกเปลี่ยนนำความรู้ การบริหาร ประสบการณ์ทำการตลาดที่สำเร็จมาแล้วในนานาประเทศ มาต่อยอดเพื่อรองรับการขยายตลาดของ StockRadars ด้วย”

นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ผลงานของ Startup คนไทยที่เป็นพันธมิตรกับเอไอเอสกว่า 1 ปีที่ผ่านมา อย่าง StockRadars ได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ และมาร่วมลงทุนแล้ว ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลจากศักยภาพของทีมที่สามารถสร้างสรรค์แอปพลิเคชันที่แตกต่าง และเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มนักลงทุนได้อย่างแท้จริง

เมื่อผนวกเข้ากับการเติบโตของตลาด Mobile Application อันเกิดจากการเข้าถึงของอินเทอร์เน็ต และสมาร์ทโฟน ก็ยิ่งจะเป็นการขยายโอกาสให้ Startup คนไทยได้อย่างแน่นอน ซึ่งเอไอเอสพร้อมที่จะสนับสนุนในฐานะพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด รวมไปถึงการเข้าถึงลูกค้าเอไอเอส และลูกค้าจากกลุ่มสิงค์เทล และ Operator พันธมิตรในต่างประเทศต่อไป

สำหรับความสำเร็จที่ผ่านมา StockRadars ได้รับเลือกจาก AIS ให้เข้าร่วม SingTel Group – Samsung Workshop เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา และ ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยในการเข้าประกวดซอฟต์แวร์ดีเด่น ประจำปี 2014 ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ณ ประเทศอินโดนีเซีย โดยได้รับรางวัลชนะเลิศในหมวด Financial Industry Application เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา

ปัจจุบัน Stockradars เปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบมาแล้ว 1 ปี มีจำนวนผู้ใช้บริการ 1 แสน 5 หมื่นกว่าคน และคาดว่าหลังจากการพัฒนาระบบวิเคราะห์หุ้นแบบเรียลไทม์ จะมีผู้ใช้บริการสูงขึ้นเป็น 3 แสนคน