VGI สำแดงอาวุธลับกลยุทธ์ลงทุนสุดเจ๋ง

“วีจีไอ” สำแดงอาวุธลับกลยุทธ์ลงทุนสุดเจ๋ง ทำกำไรโต 13.8% เผยรวบสิทธิบริหารสื่อจามจุรี สแควร์ พื้นที่รวมกว่า 2 แสน ตร.ม.

vgi-bts-setlnw

VGI รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 57/58 (ต.ค.-ธ.ค. 57) มีรายได้จากการดำเนินงาน 789.4 ล้านบาท ลดลง 0.7% ขณะที่ทำกำไรสุทธิได้ 300.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8% สวนกระแสอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาที่หดตัว เผยรับอานิสงค์จากการลงทุนใน MACO ช่วยดันกำไรไตรมาสนี้ ตอกย้ำความสำเร็จในการตัดสินใจลงทุน สำหรับโครงการใหม่ๆ อาทิ ได้รับสิทธิบริหารสื่อใน จามจุรี สแควร์ ทั้งอาคารสำนักงาน อาคารพักอาศัย และศูนย์การค้า รวมพื้นที่กว่า 2 แสนตารางเมตร และ เป็นตัวแทนขายสื่อบนจอแอลอีดี 4 จอรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ ด้านผู้ถือหุ้นยิ้ม รับปันผลครึ่งปี 30 ม.ค. นี้ 14 สตางค์/หุ้น

นางศุภรานันท์ ตันวิรัช ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ผู้นำธุรกิจให้บริการเครือข่ายสื่อโฆษณาที่สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิตในยุคสมัยใหม่ (Lifestyle Media) กล่าวว่า ในไตรมาส 3 ของบริษัท (ต.ค.-ธ.ค. 57) มีรายงานว่าการใช้จ่ายงบประมาณโฆษณาจากกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG: Fast Moving Consumer Goods) ที่มีสัดส่วนในเม็ดเงินซื้อสื่อโฆษณาถึง 40% ของอุตสาหกรรมโฆษณาทั้งหมด มีการใช้จ่ายลดลงถึง 5.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาและลดลง 7.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในช่วงไตรมาสนี้ลดลง 0.04% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลง 9.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ในไตรมาส 3 ของวีจีไอ (ต.ค.-ธ.ค. 57) บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 789.4 ล้านบาท หดตัว 0.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยหดตัวมากกว่าอุตสาหกรรมในภาพรวมเล็กน้อย ขณะที่บริษัททำกำไรสุทธิทำได้ 300.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8% เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา จากกำไรพิเศษที่ได้รับจากการขาย MACO-W1 จำนวน 53.2 ล้านบาท

ทั้งนี้ การที่รายได้จากการดำเนินงานของบริษัทหดตัวลงสาเหตุหลักจากรายได้จากสื่อโฆษณาในโมเดิร์นเทรดหดตัว 18.9% หรือ 30.5 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน เนื่องจากสัญญาบริหารสื่อโฆษณาในเทสโก้ โลตัส เซลล์ฟลอร์ (Sales floor) กำลังจะหมดอายุลงในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ทำให้บริษัทเริ่มทะยอยหยุดการขายเพราะเกรงว่าลูกค้าจะได้รับผลกระทบจากความไม่ต่อเนื่องของสัญญา อย่างไรก็ตาม รายได้จากสื่อโฆษณาบนบีทีเอส และอาคารสำนักงานและอื่นๆ ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 10.2% และ 13.6% จากไตรมาสก่อน ตามลำดับ สวนกระแสอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาที่หดตัวดังที่กล่าวข้างต้น

นายมารุต อรรถไกวัลวที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร VGI กล่าวว่า อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาต้องพึ่งพิงสภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างสูงจึงได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากสภาวะเศรษฐกิจซบเซาในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา วีจีไอ ได้เตรียมการรับมือกับสถานการณ์ และกระจายการลงทุนไปในบริษัทต่างๆ ที่ทำสื่อโฆษณากลางนอกบ้าน โดย MACO ก็เป็นหนึ่งกลยุทธ์ในการรักษาความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินของบริษัท ซึ่งพิสูจน์ในครั้งนี้แล้วว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีมากโครงการหนึ่ง

นายมารุตกล่าวต่อว่า “บริษัทยังมองหาการลงทุนใหม่ๆ และพัฒนาโครงการสื่อโฆษณาที่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตสมัยใหม่ ล่าสุด บริษัทได้รับสิทธิบริหารสื่อโฆษณาในพื้นที่จามจุรี สแควร์ ที่มีพื้นที่รวมมากกว่า 270,000 ตารางเมตร และมีผู้เข้าใช้งานอาคารกว่า 40,000 คนต่อวัน สื่อโฆษณาหลัก เช่น จอ Mega LED ด้านหน้าอาคารหันหน้าไปทางถนนพญาไท และถนนพระราม 4 ซึ่งมีรถวิ่งผ่านกว่า 150,000 คันต่อวัน และป้ายภายในและภายนอกอาคารทั้งแบบดิจิทัลและภาพนิ่ง รวม 127 ป้าย อีกโครงการหนึ่งคือ บริษัทได้เป็นตัวแทนขายสื่อโฆษณา ของจอ LED ที่ติดตั้งอยู่โดยรอบวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจำนวน 4 จอ รวมพื้นที่กว่า 981 ตารางเมตร โดยวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยฯ มีรถยนต์ผ่านกว่า 350,000 คันต่อวัน ตรงนี้ทำให้เราได้ฐานผู้ชมสื่อที่กว้างขึ้น”

“สำหรับผู้ถือหุ้น บริษัทประกาศการจ่ายเงินปันผลครึ่งปีแรกแล้วเมื่อวันที่ 5 ม.ค. จำนวน 14 สตางค์ต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นประมาณ 92.1% ของกำไรสุทธิครึ่งปีแรก โดยจะจ่ายในวันที่ 30 ม.ค.นี้” นายมารุตกล่าว

SET แกว่งตัวไร้ทิศทาง

แนวโน้มวันนี้เป็นกลาง มองกรอบเคลื่อนไหว 1,520 – 1,538 จุด

SET มีโอกาสรีบาวน์ขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 1538 จุด แต่คาดยังไม่ผ่าน การปรับขึ้นของ SET ต่อเนื่อง 3 วันทำการเกิดจากแรงซื้อสุทธิของนักลงทุนสถาบันเกือบ 8 พันล้านบาทในหุ้นกลุ่มนำตลาดที่มีผลต่อ SET มาก สูงกว่าสถิติที่นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิในเดือนม.ค.ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเพียง 1.5-4.1 พันล้านบาท จึงมีโอกาสกลับมาขายทำกำไรในช่วงที่เหลือของเดือน ส่วนนักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิ 870 ล้านบาทเมื่อวันศุกร์ ยืนยันมุมมองว่านักลงทุนต่างชาติยังไม่เพิ่มพอร์ตในตลาดหุ้นไทยเวลานี้ ขณะที่การเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มธนาคารเริ่มไม่เป็นเอกภาพบ่งบอกถึงการสลับตัวเล่น จึงอนุมานได้ว่าการปรับขึ้นของ SET คราวนี้เป็นเพียงการรีบาวน์ทางเทคนิค และควรระวังแรงขายทำกำไรจากนี้ไป ทางเทคนิค SET กำลังรีบาวน์ขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 1538 จุด หากผ่านไปได้จะกลับสู่แนวโน้มขาขึ้น แม้ผ่านขึ้นไปยังติดแนวต้านบริเวณ 1550 จุด (ระดับ 23.6% Fibonacci และ Gap ที่เปิดไว้เมื่อ 11 ธ.ค.) อยู่ดี เราจึงไม่คาดหมายการกลับสู่ทิศทางขาขึ้นในสัปดาห์นี้

กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรระยะ 1-2 วัน เลือกตัวเล่น ทยอยขายบางส่วนเมื่อ SET ปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้านบริเวณ 1538 จุด หาก SET ปิดต่ำกว่า 1520 จุด กลับมาถือครองเงินสด การปรับขึ้นของ SET ควรเป็นจังหวะทยอยขายทำกำไรหุ้นกลุ่มนำตลาดมูลค่าตลาดสูง เช่นกลุ่มพลังงานและธนาคารขนาดใหญ่ที่ปรับขึ้นมาแล้ว และหันไปให้ความสนใจหุ้นขนาดกลางและเล็ก รวมถึง Laggard play แทน

Top Daily Pick : HEMRAJ (เกิด Synergies หากการซื้อกิจการโดย WHA สำเร็จ และราคาเข้าซื้อที่ 4.5 บาทสูงกว่าราคาตลาดช่วยจำกัด downside ขณะที่ธุรกิจหลักขายที่ดินมีแนวโน้มฟื้นตัวในปีนี้) /THAI (ผลการดำเนินงานมีโอกาสฟื้นตัวจากการปรับโครงสร้างธุรกิจหลังมี DD ใหม่เข้ามา)

Technical Pick: TRUE IFEC ACD RICH BANPU

Theme Play : หุ้นกลุ่มที่มีโมเมนตัมดี (FVC ROJNA BECL TISCO IFEC SAMTEL HOTPOT CFRESH) ที่ outperform ตลาดได้สองสัปดาห์ต่อเนื่อง Laggard play (ADVANC BANPU LH) /กลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยปันผลเด่น (AP QH SIRI) /หุ้นเครือข่ายร้านอาหาร/ความงามที่จะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ (BEAUTY M MC SST)

รายงานวันนี้

Update (Reinitiate) : ADVANC (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 309 บาท) ประสิทธิภาพในการทำกำไรโดดเด่น ปันผลสูง

Strategy Talk

กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ (12-16 มกราคม)

•แนวโน้ม สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านแถว 1538-1550 จุดแล้วพัก มองกรอบเคลื่อนไหว 1500-1550 จุด การปรับขึ้นสัปดาห์ก่อนเกิดจากเม็ดเงินของนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก ซึ่งโดยสถิติมีโอกาสถูกขายทำกำไรช่วงที่เหลือของเดือนนี้ ขณะที่ทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ยังเป็นขาลงยังไม่สนับสนุนหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับขึ้นมารอ ขณะเดียวกันการทยอยประกาศงบปี 57 ของหุ้นกลุ่มธนาคารตั้งแต่กลางสัปดาห์นี้เสี่ยงต่อการถูกขายทำกำไร (Sell-On-Fact) ทางเทคนิค SET กำลังปรับขึ้นทดสอบแนวต้านแถว 1538 และ 1550 จุด หากผ่าน 1538 จุด ขึ้นไปได้จะกลับสู่ทิศทางขาขึ้น แต่เนื่องจากมีแนวต้านแถว 1550 จุด จ่ออยู่ เชื่อว่าจะต้องกลับลงมาสร้างฐานใต้ 1538 จุดอีกครั้ง

•ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม (1) ยอดซื้อสุทธิของนักลงทุนสถาบันสัปดาห์ก่อนซื้อสุทธิไปแล้วกว่า 6 พันล้านบาท และมียอดซื้อสุทธิตั้งแต่ต้นปี 2 พันล้านบาท ซึ่งสถิติ 3 ปีย้อนหลังซื้อสุทธิเพียง 1-4 พันล้านบาทในเดือนม.ค. (2) ทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หากยังคงแข็งค่าขึ้นจะไม่สนับสนุนเงินทุนไหลเข้าของนักลงทุนต่างชาติ (3) ทิศทางราคาน้ำมันดิบ ล่าสุด Brent ยังคงปรับลงทำจุดต่ำสุดแถว US$48 ต่อบาร์เรล แม้จะสามารถรีบาวด์ระหว่างสัปดาห์ แต่ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานหลายตัวปรับขึ้นมารอแล้ว (4) การทยอยประกาศผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคารตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์นี้โดยเริ่มเห็นจากธนาคารขนาดเล็กก่อน คาดจะยังสะท้อนเศรษฐกิจปี 57 ที่อ่อนแอ (5) ทิศทางค่าเงินรูเบิลของรัสเซีย หลังสถาบันจัดอันดับเครดิต Fitch ได้ปรับลดอันดับเครดิตพันธบัตรรัสเซียถูกปรับลดอันดับเครดิตลงสู่ระดับ BBB- เมื่อวันศุกร์ อันดับต่ำสุดที่สามารถลงทุนได้ อาจส่งผลกระทบต่อเงินทุนไหลเข้า-ออกในภูมิภาค

•กลยุทธ์การลงทุน

สำหรับการลงทุนระยะสั้น ทยอยขายทำกำไรเมื่อ SET ปรับขึ้นใกล้แนวต้านแถว 1538-1550 จุด สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มาก หาก SET ปรับตัวลงมาแต่ไม่หลุด 1520 จุด หาจังหวะเลือกเก็งกำไร หุ้นกลุ่มที่มีโมเมนตัมดี (FVC ROJNA BECL TISCO IFEC SAMTEL HOTPOT CFRESH) ที่ outperform ตลาดได้สองสัปดาห์ต่อเนื่อง Laggard play (ADVANC BANPU LH) /กลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยปันผลเด่น (AP QH SIRI) /หุ้นเครือข่ายร้านอาหาร/ความงามที่จะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ (BEAUTY M MC SST)

สำหรับการลงทุนระยะปานกลาง-ยาว ถือครองหุ้นต่อ จังหวะสะสมเพิ่มเกิดขึ้นหาก SET ปรับลดต่ำกว่า 1460 จุด หากยังไม่มีหุ้นอาจทยอยสะสมบางส่วนได้หากราคาหุ้นปรับตัวลงแรง กลุ่มที่น่าสนใจได้แก่ กลุ่มสายการบิน (NOK) ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงถูกลงและเข้าช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหนุนยอดผู้โดยสารระยะสั้น /หุ้นขนาดกลาง-เล็ก (MODERN MFEC SIM SYMC) มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว มี upside และ ปันผลสูงปลอดภัยต่อการลงทุนในภาวะตลาดผันผวน (CPALL M ROBINS) เป็นกลุ่มที่ผลประกอบการจะพลิกฟื้นในปี 58 ตามเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว /ทีวีดิจิทัลที่ Laggard กลุ่ม (GRAMMY) /หุ้นเด่นปี 58 (ADVANC CK GRAMMY HEMRAJ KAMART SNC SPALI TOP)